เทคโนโลยี DLNA คือ
เทคโนโลยี
DLNA นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 ก่อตั้งโดยค่าย SONY นี้เอง
ปัจจุบันนี้มีสมาชิก 245 ราย และอีกหลายราย
ซึ่งทีวีสมัยใหม่และอุปกรณ์อื่นๆเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ
กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ ในสเปคกลางถึงสูง
ก็จะมีเทคโนโลยีนี้ติดตัวมาด้วยทั้งนั้น ซึ่งก็รวมถึง Samsung
ที่ใช้ชื่อว่า Allshare และ LG ก็ใช้อีกชื่อคือ Smart Share
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับมาตรฐานกลางคือ DLNA แม้จะคนละแบรนด์
แต่ก็ยังสามารถส่งถึงกันได้
ประโยชน์
ของ DLNA นี้คือสามารถส่งภาพ
ส่งวีดีโอขึ้นทีวีสำหรับการนำเสนอได้ง่ายๆผ่านทาง Wi-Fi ได้เลย
ไม่ต้องต่อสายพวก VGA ติดกับคอม หรือสาย analog
เชื่อมกับตัวเครื่องเล่นให้วุ่นวาย ทำให้การสร้าง home network ทำได้ง่ายดาย หลายๆคนก็นำมาทำเป็น
media center โดยใข้คอมพิวเตอร์ส่งภาพ วีดีโอ หรือดูหนังได้บนจอทีวีใหญ่ๆ
ผ่านทาง DLNA นี้ แต่ถ้าเราจะได้ใช้เทคโนโลยี DLNA smart TV และ มือถือ
หรืออุปกรณ์ที่ต้องการจะส่งภาพ ส่งวีดีโอขึ้นทีวี แบบไร้สายนี้
จะต้องรองรับเทคโนโลยี DLNA ด้วยกัน โดยวิธีสังเกตอย่างง่ายๆ
คือดูที่กล่องหรือตัวเครื่องว่ามีสัญลักษณ์ DLNA หรือไม่ และ ทั้ง smart
TV และมือถือ หรือ Tablet หรือ คอมพิวเตอร์นั้นๆ จะต้องเชื่อมต่ออยู่ในวง
Wi-Fi เดียวกันกับทีวีด้วย
อุปกรณ์
ที่รองรับ DLNA มีสองโหมด คือ โหมดสำหรับเป็น Server ให้
อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆเล่นไฟล์จากตัวเรา
ตามทฤษฏี DLNA สามารถเป็นได้ 4 โหมด คือ
DMC อุปกรณ์ควบคุมการเล่นและดึงไฟล์ Media จาก Server (DMS)
DMS ทำอุปกรณ์ของตัวเองเป็นที่เก็บไฟล์ต่างๆให้อุปกรณ์ตัวอื่นดึงไฟล์ของเราไปใช้งานได้
DMR มีอุปกรณ์ (DMC)
มาควบคุมเราในการใช้งานตัวอย่างเช่น ทีวี, รับเสียง /
วิดีโอแสดงภาพและลำโพงระยะไกล สำหรับการฟังเพลง
DMP อุปกรณ์ของเราเป็นตัวดึงข้อมูลจาก Server (DMS)
เพื่อมาแสดงผลได้แก่ โทรทัศน์ สเตอริโอ home theater จอภาพแบบไร้สาย
และเกมคอนโซล